วิธีเล่น แบล็คแจ็ค เกมคาสิโนจบไว ได้เงินเร็ว แม้ว่าสมัยนี้เราจะสามารถหาเล่น แบล็คแจ็ค ได้ง่าย ๆ ตาม คาสิโนออนไลน์ แต่ส่วนใหญ่แล้วพื้นฐานการเล่นแทบจะไม่แตกต่างกันเลย ทั้งในเรื่องของวิธีเล่น กติกาต่าง ๆ นอกจากนี้ก็มีแค่ดวงที่ต้องพกไป กับวิธีการเล่นที่จะใช้ในการเล่น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องออกจากโต๊ะไวก่อนกำหนด ซึ่งวิธีการเล่นเหล่านี้แต่ละคนก็จะมีวิธีเล่นที่แตกต่างกันไปตามสไตล์ตัวเอง ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มเล่นยังไง อ่านได้จากบทความนี้

วิธีเล่น แบล็คแจ็ค เริ่มต้นทำความเข้าใจในเกมไพ่ Blackjack

ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้ใน วิธีเล่นแบล็คแจ็ค หนึ่งในเกมไพ่ยอดนิยมระดับโลก ที่มีให้คุณได้เลือกเข้าไปเล่นบนเว็บ PGBETFLIK แห่งนี้ สิ่งที่สำคัญก็จะมีในเรื่องของการทำความรู้จักเกี่ยวกับเกมไพ่ดังกล่าว ให้ได้ทราบก่อนว่ามันเป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องยึดหลัก ในการพยายามทำให้แต้มไพ่ที่ถืออยู่ในมือ รวมกันแล้วได้แต้มที่เท่ากับ 21 แต้ม

หากคุณมีไพ่ที่แต้มเกิน 21 คุณจะถูกปรับแพ้ทันทีโดยไม่มีข้อแม้ นั่นคือหลักการของการเล่นในเกมไพ่บาคาร่า และที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ภายในตัวเกมจะมีการเว้นช่องว่าง ให้ผู้เล่นสามารถเลือกตัดสินใจในการเล่นของตัวเอง

ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถพบได้ในการเล่นเกมไพ่อย่างบาคาร่า หรือเสือมังกร เพราะว่าทั้งบาคาร่าและเสือมังกร หลังจากที่คุณลงเดิมพันเสร็จ และถึงเวลาของการแจกไพ่ ระบบจะจัดการแจกไพ่ นับแต้ม ดำเนินการตามกติกา และจ่ายเงิน เทคนิคแบล็คแจ็ค ทำทุกอย่างโดยอัตโนมัติตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบเกม แต่สำหนับแบล็คแจ็คมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เนื่องจากหลังจากที่ได้รับไพ่ 2 ใบแรก แล้วแต้มยังไม่ถึง 21 คุณก็จะมีตัวเลือกอย่างเช่น

– จั่วไพ่ 1 ใบ หวังได้แต้มเพิ่ม

– ไม่จั่วไพ่ พอใจในแต้มที่มี

– แยกไพ่ จากเดิมเล่น 1 มือก็เพิ่มเป็น 2 มือ

นั่นคือทางเลือกที่ผู้เล่นทุกคนจะต้องเจอ และต้องทำการตัดสินใจในการเล่นเกือบทุกตา เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายอยู่แล้ว กับการที่ระบบแจกไพ่สองใบแรก แล้วพบว่าตนเองได้แต้มไพ่ 21 ในทันที ซึ่งเป็นแต้มไพ่สูงสุดของเกมนี้

แต้มไพ่ในการเล่น Blackjack

วิธีเล่นแบล็คแจ็ค อย่างเข้าใจในการเล่นที่ PGBETFLIK ก็คือการนับแต้มไพ่ที่ใช้บวกเลขตามปกติ ซึ่งนี่คือสิ่งที่มีความสำคัญเป็นลำดับแรกสุดเลยด้วยซ้ำ เพราะถ้าหากคุณไม่รู้ว่ามันนับแต้มอย่างไร ก็จะไม่สามารถเข้าใจได้เลยถึงการจั่วไพ่และไม่จั่วไพ่ ดังนั้นเราจะมาทำความเข้าใจในเรื่องนี้กันเลย โดยเริ่มจากการดูว่าไพ่แต่ละใบมีแต้มเท่ากับเท่าไรบ้าง

– ไพ่ 10, J, Q และ K แต่ละใบจะมีค่าเท่ากับ 10 แต้ม

– ไพ่ 2 3 4 5 6 7 8 9 นำแต้มได้ตามตัวเลขหน้าไพ่ของตัวมันเอง

– ไพ่ A เป็นได้ทั้ง 1 แต้ม และเป็นได้ทั้ง 11 แต้ม

ทีนี้เพื่อให้คุณเข้าใจเพิ่มมากขึ้น เรามาดูตัวอย่างการนับแต้มของเกมไพ่ชนิดนี้กัน เริ่มจากไพ่สองใบแรกของคุณเป็นไพ่ Q กับ A แบบนี้เท่ากับว่าคุณได้แต้มสูงสุดคือ 21 ทันที เพราะ Q เท่ากับ 10 ส่วน A ก็แสดงผลให้ตัวมันมี 11 แต้มได้ในทันที แต่ถ้าหากคุณได้ไพ่ A กับ A แบบนี้จะเป็น 2 หรือ 12 แต้มก็ได้ เพราะไพ่ใบนี้จะไม่ทำให้คุณได้แต้มเกิน 21

ศัพท์ที่ควรรู้ แบล็คแจ็ค

  • Stand

หลังจากที่ดูไพ่ในมือแล้ว หากว่าเราพอใจกับแต้มที่มีอยู่ในมือ เจ้ามือจะถามเราว่าต้องการเรียกไพ่เพิ่มหรือไม่ เราสามารถปฏิเสธได้ หรือถ้าเป็นการเล่นผ่าน คาสิโนออนไลน์ ก็กดไปที่ปุ่ม Stand จากนั้นก็ลุ้นเอาว่าเรากับเจ้ามือใครจะได้แต้มมากกว่ากัน

  • Hit

เป็นการขอไพ่เพิ่มจากเจ้ามือ เนื่องจากเราดูแต้มในมือแล้วคิดว่ามันยากที่จะเอาชนะอีกฝ่ายได้ หรือแต้มมันดูน้อยไป ตรงนี้เราสามารถกด Hit เพื่อรับไพ่เพิ่ม โดยมีเป้าหมายให้แต้มรวมใกล้เคียงกับ 21 แต้มให้มากที่สุด

  • Double Down

เป็นการเพิ่มเดิมพันเป็นเท่าตัว เมื่อเราคิดว่าจะสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ด้วยไพ่สองใบนี้ หรือหลังจากเรียกไพ่เพิ่มอีกใบก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้ก็คือหลังจากเพิ่มเงินเดิมพันไปแล้วจะเรียกไพ่ได้แค่ใบเดียวเท่านั้น

  • Split

คือการแบ่งไพ่ออกเป็น 2 กอง จะทำได้ก็ต่อเมื่อเราได้รับไพ่คู่เท่านั้น คาสิโนออนไลน์ บางแห่งก็อนุญาตให้เราสามารถ Split ได้มากถึง 3-4 ครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะทำได้แค่ครั้งเดียว

  • Insurance

ทันทีที่ไพ่ใบแรกของเจ้ามือเป็นไพ่ A เจ้ามือจะถามผู้เล่นว่าต้องการวางประกันเดิมพันหรือไม่ ซึ่งเลินประกันนี้จะเป็นการประกันในกรณีที่เจ้ามือติดไพ่ แบล็คแจ็ค ด้วย Hole Card ซึ่งจะทำให้เจ้ามือชนะในทันที หากต้องการทำประกันเดิมพันจะต้องวางเดิมพันเป็นครึ่งหนึ่งของเดิมพันที่วางไว้ก่อนหน้านี้

  • Surrender

เป็นการยอมแพ้หากเราคิดว่าโอกาสที่จะเอาชนะเจ้ามือนั้นมีน้อยเกินไป ซึ่งการยอมแพ้จะทำให้เราได้รับเดิมพันคืนมาเพียงแค่ครึ่งหนึ่งจากเงินเดิมพันที่วางลงไป

การจั่วไพ่ (Hit) ที่คุณต้องทราบ

ในส่วนของ วิธีเล่นแบล็คแจ็ค ที่เว็บ PGBETFLIK ในเรื่องของการจั่วไพ่ แน่นอนว่าคุณจะต้องได้พบกับช่วงที่ต้องตัดสินใจว่าจะจั่วไพ่ หรือไม่จั่วไพ่ดี อย่างเช่นมีไพ่ K กับ 3 เท่ากับ 13 แต้ม ซึ่งถ้าหากคุณตัดสินใจจั่วไพ่ ก็ต้องลุ้นให้ได้ไพ่ 8 แต้ม หรือน้อยกว่านั้น เป็นการเพิ่มแต้มไพ่ของคุณให้ถึงแต้มสูงสุด หรือใกล้เคียงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้

แต่ถ้าหากมี 13 แต้ม แล้วจั่วได้ไพ่ 9 แต้ม แบบนี้เท่ากับแต้มเกิน 22 คุณถูกปรับแพ้ นั่นคือความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ดังนั้นการเล่นเกมนี้ก็ต้องอ่านทางไพ่ให้ดี โดยคุณอาจสังเกตดูจากไพ่ของผู้เล่นคนอื่น ๆ (ถ้าทราบ) และไพ่ที่เจ้ามือหงายไว้ 1 ใบ ดูว่าเป็นไพ่อะไร แล้วมาหักลบกับไพ่ที่เหลืออยู่ในสำรับอีกที

การหยุดแต้มไพ่ (Stand)

อีกหัวข้อนึงที่ผู้เล่นควรจะรู้ไว้เกี่ยวกับ แนวทางเล่นกางล็คแจ็ค โดยธรรมดา รวมทั้งการเข้าเล่นที่ PGBETFLIK ที่นี้ด้วย ก็คือภายหลังที่คุณมีไพ่อยู่ในมือ ใบ คุณสามารถเลือกหยุดแต้มไพ่ (Stand) ที่แต้มใดก็ได้ แต่ว่าโดยส่วนมากผู้เล่นก็ชอบหยุดแต้มด้วยการมีไพ่ 15 แต้มขึ้นไป

หลังจากนั้นเมื่อถึงตาเล่นของฝั่งเจ้ามือ ทางนั้นจะเริ่มต้นจากการเปิดไพ่ให้ได้เห็นว่า ทั้งสองใบได้แต้มเท่าไร ซึ่งถ้าหากแต้มยังไม่ถึง 17 ทางฝั่งเจ้ามือจะไม่มีทางเลือก นอกจากจั่วไพ่โดยอัตโนมัติตามกติกา และจะหยุดไพ่ก็ต่อเมื่อมีแต้มมากกว่า 17 เท่านั้น และแน่นอนว่าเจ้ามือมีโอกาสแต้มเกินและถูกปรับแพ้ในเกมนี้ด้วยเช่นกัน

การแยกไพ่ออกเป็นสองมือ

ในกรณีที่คุณได้ไพ่สองใบแรกเป็นไพ่คู่ หรือไพ่ที่มีแต้มซ้ำกันทั้งสองใบ เช่น AA , 77 หรือ 55 แบบนี้ คุณสามารถเลือกตัดสินใจได้เลยว่า ให้มีการแยกไพ่เกิดขึ้น โดยจะเป็นการแยกมือเล่นเพิ่มอีกหนึ่งมือ แล้วจั่วไพ่มาเสริม แต่คุณก็ต้องลงเดิมพันเพิ่มอีกหนึ่งมือด้วย นั่นคือรูปแบบที่คุณควรทราบในเกมนี้

BLACKJACK เกมคาสิโนออนไลน์ คือเกมการพนันที่กำลังนิยมอย่างมากในขณะนี้ เมื่อพูดถึงเกมคาสิโนทุกคนก็คงจะนึกถึง บาคาร่าไม่ก็ เสือมังกร แต่มีอีกเกมไพ่หนึ่งที่ถูกลืมจากคาสิโนออนไลน์

BLACKJACK เกมคาสิโนที่ถูกลืม

BLACKJACK เป็นเกมที่ไม่นิยมเท่าไหร่นักในประเทศไทย ส่วนการเล่นนั้นก็ง่ายมากสำหรับเกม BLACKJACK เพียงแค่ทำให้เลขหน้าไพ่รวมกันให้ใกล้เคียง 21 มากที่สุด หรือถ้าหากรวมกันได้ 21 แต้มก็ถือว่าเป็นผู้ชนะไปเลย แต่ถ้าหากรวมกันแล้วได้เกิน 21 ก็จะถือว่าแพ้ทันทีเช่นกัน

วิธีการเล่นเกมไพ่ BLACKJACK

  1. ผู้เล่นวางเดิมพัน
  2. เจ้ามือแจกไพ่ให้ผู้เล่นคนละ 1 ใบก่อนแล้วค่อยแจกให้ตัวเอง โดยผู้เล่นจะได้ไพ่คนละ 2 ใบ ส่วนเจ้ามือได้ 1 ใบ หรือหงาย 1 ใบ คว่ำ 1 ใบ (ไพ่ของผู้เล่นต้องคว่ำเสมอ)
  3. หากไพ่ทั้ง 2 ใบของผู้เล่นรวมแต้มบนไพ่ยังห่างไกลจาก 21 มากสามารถเรียกไพ่ได้ไม่จำกัดจำนวน แต่หากแต้มบนไพ่เกิน 21 แพ้ทันที (เรียกไพ่ทีละคนตามลำดับ เจ้ามือเรียกไพ่เป็นคนสุดท้าย)
  4. กฎของ BLACKJACK เจ้ามือจะเรียกไพ่ให้ถึง 17 แต้มเป็นอย่างต่ำ ถ้าผู้เล่นได้แต้มตั้งแต่ 16 ลงมาถือว่าแพ้เจ้ามือ
  5. หากผู้เล่นพอใจที่ 16 สามารถหยุดได้ รอลุ้นให้เจ้ามือได้แต้มเกิน 21 ผู้เล่นก็จะเป็นฝ่ายชนะ

ศัพท์ BLACKJACK

  • BLACKJACK การได้แต้ม 21 ทันทีเมื่อแจกไพ่สองครั้งแรก
  • Hit การเรียกไพ่เพิ่มเพื่อให้เข้าใกล้ 21 แต้มมากที่สุด
  • Stand การพอใจในไพ่ที่ได้มา
  • Double down (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) เป็นการลงเดิมพันเพิ่มขึ้น 100% ตามกฎของแบล็กแจ็ก ผู้เล่นวางเงินเดิมพันทับเส้นกรอบสี่เหลี่ยม กรณีนี้เรียกไพ่เพิ่มได้ 1 ใบเท่านั้นเพื่อลุ้นว่าไพ่ใบที่สามจะเป็นอะไร
  • Split (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) หากผู้เล่นได้ไพ่คู่ เช่น 5 สองใบ เจ้ามือจะถามว่าต้องการ Split? ถ้าตอบตกลงผู้เล่นก็สามารถเล่นได้ 2 ชุดได้ในเวลานั้น
  • Surrender (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) ในบางเกมผู้เล่นสามารถขอยอมแพ้ได้ และได้เงินพนันกลับคืนมาแค่ครึ่งเดียว
  • Insurance (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) หากไพ่ใบแรกของเจ้ามือคือ A เจ้ามือจะถามว่าทำ Insurance? ถ้าทำก็เพิ่มเงินอีกครึ่งของวงเงินเดิมพัน (เช่น เงินเดิมพัน 10 Insurance คือ 5) เพราะไพ่ A ของเจ้ามือถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะชนะ หากเจ้ามือได้แบล็กแจ็กผู้เล่นจะได้เงินส่วนที่ทำ Insurance เพิ่มกลับมา ในทางกลับกันถ้าเจ้ามือแพ้จะริบเงินที่ทำ Insurance ไป

การตัดสิน แพ้-ชนะ

หลังจากแจกไพ่ 2 ฝ่ายระหว่าง เจ้ามือและผู้เล่น ฝ่ายใดมีแต้มใกล้เคียง 21 ที่สุดจะเป็นผู้ชนะ หากไม่ถึง 21 ก็สามารถจั่วไพ่เพิ่มได้ หากได้แต้มเกิน 21 จะเท่ากับ 0 แต้มหรือเรียกว่าระเบิด

  • 2 ฝ่ายแต้มเท่ากัน เสมอ
  • หากผู้เล่นได้ 21 แต้ม ถือว่าชนะทันที ไม่ต้องรอไพ่ฝ่ายเจ้ามือ ถ้าได้BLACKJACK x1.5
  • ผู้เล่นได้รับไพ่ 2 ใบแรกเป็นคู่ สามารถแยกไพ่เป็นสองชุดในการเล่นตานั้นได้
  • หลังจากได้รับไพ่ 2 ใบและมั่นใจจะชนะด้วยไพ่ใบที่ 3 สามารถเดิมพันได้ 2 เท่า

ราคาการเดิมพัน

  • ไพ่ธรรมดา   จ่าย 1:1
  • ไพ่BLACKJACK จ่าย 1:5
  • แยกไพ่  จ่าย 1:1
  • เดิมพันประกัน จ่าย 2:1
  • เก็บก่อน  จ่าย 1:1

กฏการเล่น และ วิธีเล่นแบล็คแจ็ค

สำหรับ วิธีเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ ซึ่งเป็นเกมพนันที่น่าสนใจ สามารถเลือกลงทุนได้ง่าย โดยการนับแต้มไพ่ไม่ยาก แบล็คแจ็ค จากการนับไพ่สองใบแรกและเรียกไพ่เพิ่มได้แต่การเรียกไพ่จะต้องไม่เกิน 21 แต้ม จั่วกี่ใบก็ได้ หากจั่วไพ่แล้วแต้มเกิน 21 แต้ม จะถือว่าระเบิดหรือแพ้นั่นเอง ในการเล่นแต่ละครั้งจะเริ่มต้นด้วยไพ่ 52 ใบในการเล่นครั้งนี้ โดยมีวิธีการเล่นที่ไม่ยุ่งยากเลย

  • เริ่มต้นการเล่น เกมไพ่แบล็คแจ็ค ให้ทำการหาห้อง เกมเดิมพัน โดยการเลือกโต๊ะเล่นตามชอบได้เลย
  • หลังจากที่เราได้ห้องที่จะเล่นแล้ว ให้นักเดิมพัน วางชิพ เดิมพัน ในเวลาที่กำหนด
  • ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ให้กับนักเดิมพันทุกท่านที่อยู่ในห้องรอบละ 1 ใบ แล้วค่อยแจกให้ตัวเอง จากนั้นก็เริ่มแจกอีก 1 ใบ ให้จนครบได้คนละ 2 ใบเรียบร้อน แต่ดีลเลอร์จะมีแค่ 1 ใบ ที่หงายอยู่ และอีก 1 ใบที่คว่ำไว้ แต่สำหรับของผู้เล่น จะคว้าไว้ทั้งสองใบ
  • จากนั้น ให้นักเดิมพัน เปิดไพ่ เพื่อลุ้นว่า แต้มของท่าน ได้ใกล้เคียงไพ่ 21 แต้ม หรือไม่ ถ้าหากยังไม่ใกล้เคียงสามารถเรียกเพิ่มได้จากดีลเลอร์ไม่มีจำกัดจำนวน แต่ถ้าว่าเรียกไพ่แล้วแต้มเกิน 21 แต้ม จะทำให้นักเดิมพันแพ้ในรอบนั้นไป ซึ่งการเรียกไพ่จะต้องเรียงตามลำดับการแจกไพ่ วนไปถึงคนสุดท้าย
  • สำหรับกฏเหล็กที่สำคัญของ แบล็คแจ็ค นั้นคือ หากแต้มไพ่บนมือของดีลเลอร์มี 17 แต้มขึ้นไป และถ้าแต้มไพ่ของนักเดิมพันมีอยู่ 16 แต้มลงไปของรอบนั้นละก็จะถือว่าดีลเลอร์เป็นฝ่ายชนะไป ไม่สามารถจั่วได้
  • ถ้าแต้มของนักเดิมพันมีอยู่ 16 แต้มก็สามารถหยุดไม่ต้องจั่วก็ได้ เพราะหาก จั่วอาจจะ เสี่ยงแต้ม เกินได้ ให้รอลุ้น แต้ม ของดีลเลอร์ ให้เกิด 21 แต้มเอาดีกว่า ถ้าหากเกินเราก็จะชนะไปในเกม แบล็คแจ็ค นั่นเอง

สูตรแบล็คแจ็คฉบับเซียนขั้นเทพ

  • ขอจั่วไพ่เมื่อจำเป็น โดยการเดิมพัน ไพ่แบล็คแจ็ค นักเดิมพันจะต้องเรียกไพ่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ซึ่งช่วงไหนควรเรียก คือ หากได้ไพ่สองใบแล้วแต้มรวมกันได้น้องกว่า 9 แต้ม
  • เพิ่มเงินเดิมพันในโอกาสที่ดี หากเมื่อเปิดไพ่สองใบได้ 9 แต้ม ซึ่งเป็นโอกาสที่ต้องได้แต้มดับเบิ้ล โดยการเพิ่มเงินวางเดิมพันเป็น 2 เท่า แต่ถ้าดีลเลอร์มีไพ่บนมือเพียง 3 ถึง 6 แต้มแนะนำให้จั่วไพ่เพิ่มได้เลย
  • ดับเบิ้ล Double หากได้แต้ม 10 กับ 11 นักเดิมพันควรดับเบิ้ล โดยดีลเลอร์มีแต้มเพียง 2 ถึง 10 แต้มให้นักเดิมพันเรียกไพ่เพิ่ม
  • เดินเกมให้เป็น หากดีลเลอร์ได้แต้มอื่น หากนักเดิมพันได้ผ่านมาถึงข้อนี้แน่นอนว่านักเดิมพันคงผ่านการเดิมพันมาไม่น้อย แปลว่าท่านได้รู้จักรูปแบบไพ่ได้ละเอียดมากพอ เช่น หากท่านได้ไพ่บนมือมี 12 แต้ม หรือมากกว่า 13 ถึง 16 แต้ม แล้วดีลเลอร์มีแต้มเพียง 3 ถึง 6 แต้ม ควรทำการเรียกไพ่เพิ่ม หากไพ่สองใบแรกมีแต้ม 17 ถึง 21 ไม่ต้องเรียกไพ่เพิ่ม เพราะถือว่าเป็นแต้มไพ่ที่ดีที่สุด เพราะอาจจะทำให้เสี่ยงแต้มเกิน 21 แต้มอาจจะทำให้ไม่มีแต้มเลยก็ได้
  • วางแผนจัดการเงินลงทุน หากนักเดิมพันอยากจะเดิมพันแบล็คแจ็คให้ได้ผลกำไรที่ดี ควรจะมีการวางแผนจัดการเงินลงทุนก่อนเดิมพัน จะได้ไม่เดือดร้อนหรือเกิดข้อผิดพลาดภายหลังได้ จะได้จัดการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่ไม่ขาดคิดได้ สำรองเงินทุนได้
  • ไม่ควรแยกไพ่มากเกินไป หากอยากจะเป็นเซียนนักเดิมพันจะต้องศึกษาให้ดี และ ไม่ควรแยกไพ่มากเกินไป โดยเฉพาะการแยกคู่ 6 และคู่ 10 ไพ่แต้มพวกนี้ไม่ควรแยกเลย เพราะอาจจะทำให้ท่านเสียเปรียบหรือเดิมพันแพ้ได้ ยิ่งแยกไพ่มากขึ้นยิ่งมีความเสี่ยงที่จะได้ไพ่แต้มมากกว่า 21 แต้ม
โปรโมชั่นติดต่อเรา